savestock

savestock

Thursday, February 13, 2014

กำแพงที่กั้นขวาง แม้กระทั่งคนเก่งก็ไม่ให้ผ่าน !!


"ผมมีลูกค้าที่เป็นหมอหลายท่านมาถามในคำถามที่น่าสนใจมาก อยากเล่าให้ฟังครับ ..คือ คุณหมอมาปรึกษาผมว่า เขาหาเงินทั้งทำโรงพยาบาล และก็ทำคลินิกส่วนตัว แบบว่าทำเต็มที่แล้ว ได้เงินประมาณเดือนละ 3 แสน คือ Limit สุดแล้ว ...โอวว !! หมอครับ ฮึม !! โคตรเยอะเลยครับพี่ เข้า Ranking น่าจะสูงแบบ CEO บริษัทชั้นนำในประเทศไทยแล้วนะครับ ...เออ ว่าแต่พี่หมอมีลูกสาวไหมครับ (ฮ่า..ฮ่า ล้อเล่น) -- เข้าประเด็นดีกว่า ผมเข้าใจว่าพี่หมอต้องการถามอะไร คือ พี่หมออยากจะรู้ว่าเขาหาสุดก็เยอะขนาดนี้แต่ทำไมไม่รวยและไม่สบายเหมือนหลายๆคนที่อาจจะทำเงินต่อเดือนน้อยกว่านั้น ..ฮึม!! ดูพี่หมอตาคล้ำนะครับ ให้ผมเดานะ พี่หมอติดหุ้นเยอะเลยใช่ไหมครับพี่ -- 'เฮ้ย!! รู้ไดไงฟระ' -- ครับ ประเด็นจริงๆ ของการสร้างความมั่งคั่งแบบยั่งยืนของคนแต่ละคน ไม่สำคัญว่าเขาจะมีอาชีพไหนหรือเงินเดือนเท่าไหร่ (แต่แน่นอน อาชีพเงินเดือนสูงย่อมได้เปรียบนิดหน่อย ..แต่ส่วนใหญ่คนเงินเดือนสูง เขาสร้างหนี้สูงขึ้นไปอีก) ..ที่สำคัญคือ พอได้เงินเดือนมาหักค่าใช้จ่าย หักหนี้หักทั้งหมดแล้ว มีเงินเหลือเท่าไหร่ และที่วัดความแตกต่างจริงๆก็คือหลังจากนั้นขึ้นกับว่าเอาเงินออมนี้ไปสร้างให้มันเติบโตอย่างไร ..ถ้าฝากธนาคารเฉยๆ หรือ ซื้อพันธบัตรรัฐบาลดอกเบี้ยต่ำ พวกนี้เงินไม่มีทางโต เพราะเราวางในที่แพ้เงินเฟ้อที่แท้จริง -- ทางที่จะให้มันโตก็ต้องวางใน Asset เช่น ที่ดิน , ทอง , หุ้น ..แต่ปัญหาก็มีเช่น ที่ดินก็แพง , ทองเวลานี้ก็กำลังลง และหุ้นก็เล่นยาก เข้าทีไร ดอยมันทุกรอบ ...นั่นไงครับ!! ที่พี่พูดมันตรงชีวิตของแมงเม่าในตลาดหุ้นส่วนใหญ่เลยครับ คือ เขามองตลาดหุ้นว่าน่ากลัว เวลารอบการขึ้นมาก็ยังกล้าๆกลัวๆไม่เข้า มัวแต่นั่งรอให้ข่าวร้ายต่างๆในตลาดผ่านไปให้หมด จากนั้นพอเริ่มมั่นใจเข้าซื้อ ทุกข่าวในตลาดมีแต่ข่าวดีๆ เราซื้อปั๊บ ดอย!! ติดดอยของทุกๆรอบที่เข้า เสมือนมันเขียนโปรแกรมใส่ไว้ที่หน้าผากเราเลยว่า ถ้าฉันซื้อวันไหนตัวไหน จะติดดอยทันที ..โคตรเซ็ง !!!! -- พี่ครับวิธีง่ายสุดเลยนะ สำหรับคนที่พอมีรายได้มากกว่าจ่าย (พยายามลดหนี้ ลดจ่าย) ให้ออมในหุ้น คือเลือกหุ้นตามพื้นฐาน ไม่ตามตลาด แปลว่าหุ้นที่เราซื้อมาออมมักอยู่ในช่วงที่ตลาดเขาไม่เล่นหุ้นกลุ่มเรา อย่างเช่นปี 2011 คนเขาเล่นค้าปลีกกัน เราก็มาซื้อออมตัวที่คนส่วนใหญ่มองว่าไม่ดีเช่นกลุ่มมือถือ ..หรืออย่างปี 2014 ปีนี้ตลาดแย่เราก็มาดูตัวที่ไม่แพง แล้วบริษัทยังแข็ง แถมให้ปันผล และคนส่วนใหญ่ไม่เล่น เช่น กลุ่ม PTT ...พูดง่ายๆว่า เราซื้อออมหุ้นมีหลักการคือ ซื้อหุ้นดีในเวลาที่บริษัทนั้นๆเกิดวิกฤต ก็จะทำให้เราได้เฉลี่ยซื้อในเวลาที่หุ้นถูก (ประเด็นไม่ใช่ต้องซื้อถูกที่สุด เพราะมันไม่มี แต่ถ้าเฉลี่ยซื้อเวลาวิกฤตมา ก็ถือเฉลี่ยซื้อได้ถูกแบบว่าสุดยอดแล้ว) ...ให้ดู รอบ ของกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นหลัก เพราะโดยมาก รอบ ของตลาด กับตัวที่เราน่าซื้อออมมันคนละรอบ ดังนั้นต้องดูดีๆครับ ...ข้อสรุปคือพี่หมอต้องลงทุนเพิ่มแบบถูกวิธี เพราะคุณหมอไม่มีเวลา ดังนั้น ถ้าจะ Trading ซื้อขายเก็งกำไรผมฟันธงว่า ไม่น่าจะ Work ..ทางแก้ก็คือ ทำงานตัวเองให้ดีหาเงิน แล้วเอาเงินเก็บมาออมในหุ้น (ซื้อหุ้นปันผลดี ในรอบที่ราคาถูก แล้วไม่ขาย ปล่อยให้มันทำเงินปันผลให้เราชั่วชีวิต) -- แต่นี้รับรอง เลิกติดหุ้นปั่น แต่กลับมาติดหุ้นปันผลดี ติดไปตลอดชีวิต ให้มันสร้าง Passive Income ให้เรา ในขณะที่เราก็หา Active Income มาเติม Port ออมในหุ้นไปเรื่อยๆ ...รวยชัวร์ แค่อดทนหน่อย ..เอาใจช่วยครับ -- บอกตรงๆ วิธีการนี้ใช้ได้ทุกอาชีพและดีจริงๆในระยะยาว ..จัดไปครับ!!"
: ภาววิทย์ กลิ่นประทุม # ไม่ต้องเก่งที่สุด แต่ขอดีที่สุดในจุดที่เลือกยืน

No comments:

Post a Comment