savestock

savestock

Friday, February 7, 2014

สแตมป์เซเว่น และ เงินตราอนาคต แห่งอาณาจักรวานร !!


"คุณจะไม่สามารถเป็นนักลงทุนที่รวย หากไม่รู้จักว่าอะไรคือเงินจริงๆ -- คุณรู้จักความหมายของเงินจริงๆ แค่ไหน ..คุณรู้ไหมว่าสแตมป์ 7-11 ก็ถือว่าเป็นเงินชนิดหนึ่ง !! ...โอเค เงิน หรือ Money คือ สื่อกลางการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ซึ่งหน้าที่ Money ควรรักษามูลค่าของมันได้ไม่ว่าจะเก็บไว้นานเท่าไหร่ ในสมัยก่อนจึงใช้ ทองคำ แทน Money ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ เพราะทองคำมีจำนวนจำกัด และทุกคนให้ค่าในทองคำ ..ต่อมาเงินกระดาษ Paper Money ถูกสร้างขึ้นมาใช้แทนทองเพราะสะดวกในการใช้มากกว่า โดยสมัยนั้นกำหนดว่า เงินกระดาษที่พิมพ์ออกมาต้องมีทองคำค้ำประกัน (Paper Money ในเวลานั้น จึงมีทองคำเป็นเครื่องการันตีมูลค่า) ..แต่หลังจากปี 1971 ประธานาธิปดี Nixon ได้ยกเลิก Gold Standard โดยเลิกการใช้ทองคำประกัน Paper Money มาใช้ 'หนี้'ของรัฐบาลอเมริกาเป็นตัวค้ำประกันมูลค่าแทนทองคำ ..ปัญหาคือ หนี้ที่ค้ำประกันมูลค่าเงินตั้งแต่ปี 1971 ของอเมริกามันโตขึ้นเรื่อยๆ จากประเทศอเมริกาที่เคยเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก วันนี้เปลี่ยนมาเป็นลูกหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก เทียบตัวเลขง่ายๆ คือ วันนี้หนี้อเมริกาสูงกว่า 100% ของ GDP ซึ่งก็คือ อเมริกาเป็นหนี้เกินกว่าเท่าตัวของรายได้ของทุกคนในประเทศรวมกัน ..ถ้าเป็นคนธรรมดา ก็เรียกว่า ใกล้จะล้มละลายเต็มทีแล้ว!! -- ผลที่ตามมาคือ เงิน มันเปลี่ยนสถานะจาก Money มาเป็น Currency เนื่องจากพอเปลี่ยนจากของที่มีอย่างจำกัดเช่นทองมาค้ำประกัน มาเป็นหนี้ที่ไม่จำกัด ก็ทำให้เงินมันถูกพิมพ์ขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งจนเงินเฟ้อมหาศาลอย่างที่เป็นอยู่ ...ดังนั้น ไม่แปลกที่ Curreny ซึ่งก็คือเงินกระดาษและเงินตัวเลขที่เราใช้ๆกันอยู่นี่จะลดมูลค่าในอัตราเร่ง ประกอบกับนโยบาย QE ในปี 2008 ที่อเมริกาพิมพ์เงินจำนวนมโหราฬอัดเข้าระบบการเงิน ก็การันตี เงินเฟ้อ และ การเพิ่มขึ้นอย่างสุดขีดของค่าครองชีพ ค่าใช้จ่าย รวมทั้งราคา Asset ทุกๆอย่างในโลกที่ราคาจะขึ้นอย่างน่าตกใจ -- ผลคือ คนรวยที่ถือครอง Asset ต่างๆ เช่น ที่ดิน , หุ้น , ทองคำ จะรวยขึ้น ๆ ..แต่คนจนที่มีแต่เงิน Currency ฝากธนาคาร จะมีแต่มูลค่าลดซวยขึ้นและจนลงทุกวัน ...ใช่ !! ทางเลือกหนึ่งของคนชั้นกลางที่อยากจะรักษามูลค่าของเงินเก็บที่หามาได้ ก็คือ การออมเงินใน Asset ..อย่างที่ผมย้ำมาตลอดก็คือ การออมในหุ้นปันผล ก็คือ ทางเลือกที่ไม่น่ามองข้ามครับ" ...ครับ ผมจะชี้ให้เห็นว่า เงิน ในยุคต่อไป ก็คือ Asset อย่างหุ้น เพราะสภาพคล่องสูง จำนวนจำกัด มีมูลค่าในตัวของมันเอง มีคนต้องการ แถมมีปันผล แล้วยิ่งเก็บราคายิ่งเพิ่ม ...ข้อเสียข้อเดียวของหุ้นดีปันผลสูง ก็คือ ราคามันแกว่ง -- การออมในหุ้นก็คือ การมองผ่านการแกว่งของราคา ไปดูที่ปันผลที่เพิ่มขึ้นและได้รับต่อเนื่องทุกปี ...แถมสุดท้ายมูลค่าก็มีแต่เพิ่มเพราะเคล็ดลับที่คนส่วนใหญ่มองข้ามคือราคาหุ้นดีในระยะยาวมันโตเป็นสิบเท่าร้อยเท่า ..โตเกินจินตนาการ ก็คือ แปลว่าใครที่ออมหุ้นเป็นก็จะรวยเกินจินตนาการหากถือผ่านความผันผวนได้นั่นเอง" ...นี่แหละที่เขาว่าความรวยจนมันตัดกันแค่มุมมอง คนรวยเพราะมองได้ยาวนั่นเอง!!
: ภาววิทย์ กลิ่นประทุม # ไม่ต้องเก่งที่สุด แต่ขอดีที่สุดในจุดที่เลือกยืน

No comments:

Post a Comment